Display mode (Doesn't show in master page preview)

20 กันยายน 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 16-20 ก.ย. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทแข็งค่า หลังวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ เริ่มขึ้นแล้วในการประชุม FOMC วันที่ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา ทั้งนี้แม้จะมีปัจจัยลบกดดันให้อ่อนค่าตามจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก แต่เงินบาทก็ยังคงเคลื่อนไหวเป็นกรอบ โดยมีแรงหนุนให้ทยอยแข็งค่าขึ้นเป็นระยะๆ ก่อนการประชุมเฟด ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวได้เพียงช่วงสั้นๆ กลางสัปดาห์ตามการปรับโพสิชั่นหลังการประชุม FOMC 17-18 ก.ย. ซึ่งเฟดมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% มาที่กรอบ 4.75-5.00% โดยเงินบาทพลิกกลับมาแข็งค่าและทำสถิติแข็งค่าสุดในรอบกว่า 19 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.03 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่แรงหนุนเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงท่ามกลางมุมมองที่ประเมินว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของ Cycle การลดดอกเบี้ย และแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในระยะข้างหน้ายังเป็นขาลง นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก และสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน  
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 23-27 ก.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลฃการส่งออกเดือนส.ค. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก และสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ดัชนี PMI (เบื้องต้น) สำหรับเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ตลอดจนอัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศรับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค ท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสในการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในรอบการประชุมเดือนก.ย. ประกอบกับมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการเริ่มเปิดจองซื้อกองทุนวายุภักษ์ ก่อนจะแกว่งตัวในกรอบแคบระหว่างรอติดตามผลการประชุมเฟดในช่วงกลางสัปดาห์อย่างใกล้ชิด ดัชนีหุ้นไทยดีดตัวขึ้นอีกครั้ง หลังการประชุมเฟดสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค เนื่องจากเฟดมีมติปรับลดดอกเบี้ยถึง 0.50% ไปที่กรอบ 4.75-5.00% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยต่อเนื่องในระยะข้างหน้า นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในประเทศยังได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากความหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีกรอบการปรับขึ้นของตลาดหุ้นไทยเริ่มจำกัดในช่วงท้ายสัปดาห์หลังตอบรับปัจจัยบวกไปพอสมควร อนึ่ง หุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ปรับตัวขึ้นมากสุดในสัปดาห์นี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มแบงก์และวัสดุก่อสร้างปรับตัวลงสวนทางตลาดในภาพรวม
  • สัปดาห์ที่ 23-27 ก.ย. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,440 และ 1,420 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,465 และ 1,475 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค.ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน อังกฤษ และญี่ปุ่น ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. ของสหรัฐฯ รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.ของจีน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น