สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
- เงินบาททยอยแข็งค่าในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 13 เดือนที่ 34.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของไทยที่ขยายตัวดีกว่าที่คาด ขณะที่ Sentiment ของ เงินดอลลาร์ฯ ยังอ่อนแอต่อเนื่องท่ามกลางกระแสการคาดการณ์เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC เดือนก.ย. นี้ นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกก็เพิ่มแรงหนุนให้เงินบาทแข็งค่าด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี เงินบาทอ่อนค่ากลับมาบางส่วนช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ หลังจากกนง. มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยไว้ที่ 2.50% ตามที่ตลาดคาด ประกอบกับตลาดเริ่มทยอยซื้อคืนเงินดอลลาร์ฯ เพื่อปรับโพสิชั่นก่อนถ้อยแถลงของประธานเฟดที่งานสัมมนาประจำปีของเฟดที่แจ็กสัน โฮลช่วงปลายสัปดาห์ นอกจากนี้ การย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลกหลุดระดับ 2,500 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ก็มีส่วนชะลอการแข็งค่าของเงินบาทด้วยเช่นกัน
- สัปดาห์ระหว่างวันที่ 26-30 ส.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.00-34.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สัญญาณเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ตัวเลขการส่งออก และรายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.ค. ของไทย สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนก.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 (Prelim.) ของสหรัฐฯ รวมถึงตัวเลขกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
- ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตลอดสัปดาห์ โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยบวกในประเทศ ทั้งนี้หุ้นไทยดีดตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นสัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุนหลักๆมาจากรายงานตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของไทยที่ขยายตัวได้ 2.3% YoY ซึ่งดีกว่าตลาดคาดการณ์ ประกอบกับนักลงทุนคลายความกังวลบางส่วนต่อประเด็นการเมืองในประเทศและกลับมาคาดหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลชุดใหม่ โดยประเด็นดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อหุ้นในทุกอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ แบงก์และค้าปลีก นอกจากนี้หุ้นไทยยังมีแรงหนุนจากการคาดการณ์เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดด้วยเช่นกัน
- หุ้นไทยขยับขึ้นต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายสัปดาห์ โดยยังคงมีแรงซื้อเข้ามาในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ที่มีประเด็นบวกเพิ่มเติมจากการที่กนง. มีมติคงดอกเบี้ยในการประชุมรอบล่าสุดและการประกาศจ่ายเงินปันผลของกลุ่มแบงก์
- สัปดาห์ที่ 26-30 ส.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,340 และ 1,330 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,365 และ 1,375 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ประเด็นการเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคา PCE/Core PCE เดือนก.ค. และตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2567 ของสหรัฐฯ ตลอดจนกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค.ของจีน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น