Display mode (Doesn't show in master page preview)

25 ตุลาคม 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 21-25 ต.ค. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทอ่อนค่าผ่านแนว 33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ไปแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 6 สัปดาห์ (นับตั้งแต่ 11 ก.ย. 2567) ที่ระดับ 33.84 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับภาพการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียและเงินหยวน หลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปี และ 5 ปีลง ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ ขยับแข็งค่าขึ้นตามทิศทางบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า เฟดจะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับตลาดมีการปรับมุมมองบางส่วนในการเพิ่มโอกาสความเป็นไปได้ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ อาจชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในครั้งนี้ นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาทยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติในระหว่างสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่มีปัจจัยบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดด้วยเช่นกัน
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 28 ต.ค. – 1 พ.ย. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.50-34.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออก/รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนก.ย. ของไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติและสกุลเงินเอเชีย ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนต.ค. และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Indices เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของสหรัฐฯและยูโรโซน ผลการเลือกตั้งทั่วไปญี่ปุ่น (27 ต.ค.) ผลการประชุม BOJ (30-31 ต.ค.) รวมถึงดัชนี PMI เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ และจีน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • หุ้นไทยเผชิญแรงขายทำกำไร หลังปรับตัวขึ้นแรง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ทั้งนี้หุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนจะปรับตัวลงในเวลาต่อมาตามแรงขายทำกำไร (หลังจากปรับตัวขึ้นค่อนข้างแรงในช่วงก่อนหน้านี้) โดยเฉพาะจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนสถาบันในประเทศ นอกจากนี้การปรับตัวลงของหุ้นไทยในระหว่างสัปดาห์ยังสอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศท่ามกลางการปรับมุมมองของตลาดที่ประเมินว่าเฟดจะไม่เร่งลดดอกเบี้ย ประกอบกับยังมีความไม่แน่นอนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 5 พ.ย. 2567 นี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี หุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหุ้นบริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่จากคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 เข้ามาหนุน ประเด็นดังกล่าวหนุนให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น สวนทางกับภาพรวมที่ปรับตัวลงถ้วนหน้า
  • สัปดาห์ที่ 28 ต.ค. – 1 พ.ย. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,450 และ 1,435 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,475 และ 1,490 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลประกอบการไตรมาส 3/2567 ของบจ.ไทย ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนต.ค. และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2567 ของสหรัฐฯและยูโรโซน การประชุม BOJ รวมถึง ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น จีน และอังกฤษ

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น