สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 32.32 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวขึ้น หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าที่คาด ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์สอดคล้องกับจังหวะการปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของราคาทองคำในตลาดโลก อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าผ่านแนว 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงกลางสัปดาห์ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากถ้อยแถลงของประธานเฟดสะท้อนท่าทีที่ระมัดระวังต่อการส่งสัญญาณเรื่องการลดดอกเบี้ยในระยะข้างหน้า เพราะแรงกดดันเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง เงินบาทอ่อนค่าลงต่อจนถึงช่วงท้ายสัปดาห์ โดยมีปัจจัยกดดันจากตัวเลขการส่งออกของไทยที่เริ่มชะลอลงและข่าวการปรับมุมมองต่ออันดับความน่าเชื่อถือของไทยเป็น Negative โดย Fitch ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด หนุนเงินดอลลาร์ฯ ให้แข็งค่าขึ้นพร้อมๆ กับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังรอติดตามสัญญาณของทางการในการดูแลความผันผวนของเงินบาทที่อาจมีความเชื่อมโยงกับธุรกรรมทองคำด้วยเช่นกัน
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 29 ก.ย. – 3 ต.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.80-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนส.ค. ของไทย ประเด็นเกี่ยวเนื่องจากการหารือระหว่างธปท. และผู้ค้าทองคำ สถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลก ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและดัชนี PMI เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวผันผวน ก่อนจะย่อตัวลงช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้ SET Index ร่วงลงช่วงต้นสัปดาห์หลังตอบรับประเด็นความชัดเจนทางการเมืองในประเทศและการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดไปพอสมควร ประกอบกับไร้ปัจจัยใหม่ ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ส่งผลให้นักลงทุนขายทำกำไรหุ้นรายตัว นำโดยกลุ่มพลังงานที่มีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานส่วนเกิน อย่างไรก็ดี SET Index ดีดตัวขึ้นช่วงกลางสัปดาห์ หลังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการจัดประชุมครม. นัดพิเศษของรัฐบาลชุดใหม่ซึ่งกระตุ้นความคาดหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้มีแรงซื้อคืนหุ้นหลายกลุ่ม นำโดย ค้าปลีก แบงก์และไฟแนนซ์ SET Index พลิกกลับมาย่อตัวลงอีกครั้งช่วงท้ายสัปดาห์ สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเพิ่มเติม ครอบคลุมยา รถบรรทุกและเฟอร์นิเจอร์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ต.ค. เป็นต้นไป นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากการที่ Fitch ปรับลดมุมมองความน่าเชื่อถือของไทยเป็น “เชิงลบ”
• สัปดาห์ที่ 29 ก.ย. – 3 ต.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,270 และ 1,245 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,300 และ 1,315 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน ญี่ปุ่น และจีน ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. ของยูโรโซน
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น