สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท
• เงินบาททำสถิติแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี 9 เดือน แต่ยังไม่ผ่านแนว 31.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าเข้าใกล้แนว 31.00 โดยแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 4 ปี 9 เดือนนับตั้งแต่มี.ค. 2564 ที่ 31.02 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้ง นอกจากนี้ สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ต่างก็เคลื่อนไหวในกรอบแข็งค่า สอดคล้องกับเงินเยนที่ทยอยแข็งค่ากลับมา หลังจากที่ทางการญี่ปุ่นเตือนถึงการเข้าดูแลเพื่อสกัดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเงินเยน ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ยังคงถูกกดดันจากการคาดการณ์เกี่ยวกับโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยของเฟดในปี 2569 ซึ่งอาจจะมากกว่า 1 ครั้งที่สะท้อนผ่าน Dot Plot ทั้งนี้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2568 ธปท. ออกหนังสือเวียน เรื่อง การซักซ้อมวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศกับลูกค้า โดยขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 5 แห่ง ในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานการรับซื้อหรือรับฝากเงินตราต่างประเทศที่มาจากต่างประเทศของลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศ โดยเฉพาะ 1) กรณีเงินตราต่างประเทศที่ไม่เกี่ยวกับค่าทองคำและธนบัตรเงินตราต่างประเทศที่มีจำนวนตั้งแต่ 2 แสนดอลลาร์ฯ หรือเทียบเท่า 2) กรณีเงินตราต่างประเทศที่เกี่ยวกับค่าทองคำทุกจำนวนรายธุรกรรม และ 3) กรณีธนบัตรเงินตราต่างประเทศที่มีจำนวนเงินตั้งแต่ 15,000 ดอลลาร์ฯ หรือเทียบเท่า
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 2568 – 2 ม.ค. 2569 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 30.90-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนพ.ย. ของไทย ฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ การเคลื่อนไหวของสกุลเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก สถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 9-10 ธ.ค. ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น และยูโรโซน
สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย
• ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกได้เล็กน้อย แม้จะร่วงลงแรงช่วงท้ายสัปดาห์ท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ทั้งนี้ SET Index ดีดตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงซื้อหลัก ๆ จากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นำโดย หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีตามทิศทางการฟื้นตัวของหุ้นเทคโนโลยีทั่วโลก และหุ้นกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นจากประเด็นข่าวที่ว่าสหรัฐฯ สกัดกั้นและยึดเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมในช่วงกลางสัปดาห์ สอดคล้องกับการปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นต่างประเทศ นำโดย ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มีปัจจัยบวกจากตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 ของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงในช่วงปลายสัปดาห์ โดยเผชิญแรงกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากกังวลว่าต้นทุนการผลิตจะปรับตัวสูงขึ้นหลังราคาทองแดงพุ่งสูงขึ้น ประกอบกับไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
• สัปดาห์ที่ 29-30 ธ.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,240 และ 1,230 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,275 และ 1,285 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทำ Window Dressing ช่วงสิ้นปี สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ยอดขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ย. และดัชนีราคาที่อยู่อาศัยเดือนต.ค. ของสหรัฐฯ รวมถึงข้อมูล PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น