Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 มิถุนายน 2567

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 24-28 มิ.ย. 67)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

  • เงินบาทอ่อนค่าตามเงินเยนในช่วงแรก แต่ฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาบางส่วนตามราคาทองคำในตลาดโลกที่ขยับขึ้น ทั้งนี้เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบที่แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยตามจังหวะการย่อตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เงินบาทพลิกกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของสัปดาห์สอดคล้องกับเงินหยวนและเงินเยน โดยเงินเยนแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 38 ปีเทียบกับเงินดอลลาร์ฯ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้น หลังท่าทีของเจ้าหน้าที่เฟดซึ่งยังคงมีความกังวลต่อสถานการณ์เงินเฟ้อ หนุนการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า เฟดไม่น่าจะรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็วๆ นี้ นอกจากนี้ เงินดอลลลาร์ฯ ยังได้รับแรงหนุนโดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ทางการเมืองในฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวแข็งค่ากลับมาได้บางส่วน โดยน่าจะมีแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ประกอบกับตลาดยังรอติดตามการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
  • สัปดาห์ระหว่างวันที่ 1-5 ก.ค. 2567 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.40-37.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของไทย ปัจจัยการเมืองในประเทศ สถานการณ์สกุลเงินในภูมิภาค ถ้อยแถลงของประธานเฟด ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟด (11-12 มิ.ย.) การเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ (4 ก.ค.) ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อังกฤษ และยูโรโซน และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. ของยูโรโซน


สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

  • ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในช่วงแรกขานรับปัจจัยบวกจากมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน ก่อนจะย่อตัวลงในช่วงท้ายสัปดาห์ ทั้งนี้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยมีปัจจัยหนุนมาจากความหวังเชิงบวกต่อมาตรการขับเคลื่อนตลาดทุน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นทุกอุตสาหกรรม อย่างไรก็ดีหุ้นไทยย่อตัวลงในเวลาต่อมา หลังตอบรับประเด็นบวกข้างต้นไปพอสมควร โดยนักลงทุนกลับมาระมัดระวังในการลงทุนระหว่างรอติดตามตัวเลขเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในช่วงท้ายสัปดาห์ รวมถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศ นอกจากนี้ แรงขายหุ้นผู้ประกอบธุรกิจโรงไฟฟ้าและหุ้นผู้ประกอบธุรกิจท่าอากาศยานจากความกังวลเรื่องแนวโน้มผลประกอบการมีส่วนกดดันหุ้นไทยในช่วงท้ายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน อนึ่ง นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ติดต่อกัน
  • สัปดาห์ที่ 1-5 ก.ค. 2567 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,290 และ 1,280 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,310 และ 1,325 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมิ.ย. ของไทย ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ประเด็นการเมืองในประเทศ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ข้อมูลตลาดแรงงานเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ บันทึกการประชุมเฟด ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนมิ.ย. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน จีน และญี่ปุ่น ตลอดจนดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น