Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 พฤศจิกายน 2565

Econ Digest

การประชุม FOMC วันที่ 1-2 พ.ย. 65 เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% คาด...ปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไป คือ...

คะแนนเฉลี่ย

      การประชุม FOMC วันที่ 1-2 พ.ย. 65 เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 0.75 เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับมาอยู่ที่ระดับ 3.75-4.00% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 15 ปี  นอกจากนี้ เฟดยังได้เน้นย้ำความจำเป็นที่จะต้องขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง จนกว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายการควบคุมเงินเฟ้อได้สำเร็จ ซึ่งยังเร็วเกินไปที่จะคาดหวังว่าเฟดจะหยุดการขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้นี้ อย่างไรก็ดี เฟดได้ส่งสัญญาณอาจพิจารณาชะลอการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดๆ ไป ตามความเหมาะสม

       ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าหากเงินเฟ้อสหรัฐฯ มีทิศทางอ่อนแรงลง ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ รวมถึงตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ความจำเป็นที่เฟดต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายถึงร้อยละ 0.75 คงมีลดลง ส่งผลให้เฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงที่ครั้งละ 0.25-0.50%  ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนธ.ค. 65 ต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2566 และจากแถลงการณ์ของเฟดล่าสุด เฟดคงจะยังไม่พิจารณาหยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะอันใกล้ ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดไปแตะระดับสูงสุดที่ระดับเกินกว่า 5.00% ในปีหน้า และเฟดอาจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับนั้นยาวนานกว่าที่เคยคาดการณ์

       ทั้งนี้ ผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวของเฟดจะส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในปี 2566 มีมากขึ้น ขณะที่ ในส่วนของผลกระทบต่อตลาดการเงิน เนื่องจากตลาดได้ price in ทิศทางแข็งกร้าวของเฟดไปแล้ว ดังนั้น คาดว่าค่าเงินดอลลาร์คงไม่แข็งค่าไปมากกว่านี้เท่าใดนัก ยกเว้นแต่ว่าในระยะข้างหน้ามีปัจจัยที่มา surprise ตลาด ซึ่งคงจะต้องจับตาผลการประชุม FOMC ในรอบถัดๆ ไป



 


Click
 ชมคลิป การประชุม FOMC วันที่ 1-2 พ.ย. 65เฟดมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน%


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest