Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 ตุลาคม 2565

Econ Digest

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (10-14 ต.ค. 65) หลังตัวเลขเงินเฟ้อของไทยชะลอตัวลง ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯยังอ่อนแอกว่าที่คาด

คะแนนเฉลี่ย

เงินบาทพลิกแข็งค่า แตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงตามการปรับตัวลงของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนี ISM ภาคการผลิตและตัวเลขการเปิดรับสมัครงานออกมาอ่อนแอกว่าตลาดคาด ทั้งนี้แรงขายเงินดอลลาร์ฯ ชะลอลงบางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 10-14 .. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ กระแสเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค มุมมองต่อทิศทางนโยบายการเงินของเจ้าหน้าที่เฟด แนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับทบทวนใหม่โดย IMF ดัชนีราคาผู้บริโภคและผู้ผลิตเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ รวมถึงบันทึกการประชุมเฟด



หุ้นไทยปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Indexร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันท่ามกลางความกังวลต่อสัญญาณคุมเข้มของเฟด และข่าวเกี่ยวกับสถาบันการเงินรายใหญ่แห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยทยอยปรับตัวขึ้นในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของไทยชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี หุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งช่วงปลายสัปดาห์ก่อนการรายงานตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐฯ
สัปดาห์ที่ 10-14 ต.. 2565 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,565 และ 1,550 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,590 และ 1,600 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ของบจ. รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น