Display mode (Doesn't show in master page preview)

24 ตุลาคม 2565

Econ Digest

จับตาค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย 24-28 ต.ค. 65 คาดเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 75 bps. ทั้งในเดือน พ.ย. และ ธ.ค.

คะแนนเฉลี่ย

เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาค นำโดย เงินเยนและเงินหยวน โดยในระหว่างสัปดาห์ เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 16 ปีที่ 38.46 บาทต่อดอลลาร์ฯ ส่วนเงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดทยอยเพิ่มน้ำหนักให้กับโอกาสความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 75 bps. ในการประชุม FOMC เดือนธ.ค. ต่อเนื่องจากที่น่าจะปรับขึ้น 75 bps. ในการประชุมเดือนพ.ย. นี้
สัปดาห์ระหว่างวันที่ 24-28 .. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 37.80-38.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกไทยเดือนก.ย. กระแสเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ผลการประชุม ECB และ BOJ ดัชนี PCE/Core PCE Price Indices เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ จีดีพีไตรมาส 3/65 ของสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนข้อมูล PMI เดือนต.ค. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และอังกฤษ



SET Index ปรับตัวขึ้นจากสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ SET Index ดีดตัวขึ้นช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนสถาบัน โดยมีแรงหนุนจากความหวังเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐในช่วงปลายปีประกอบกับมีแรงซื้อหุ้นบางกลุ่ม ก่อนการประกาศงบไตรมาส 3/65 อย่างไรก็ดีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในเวลาต่อมาก่อนจะลดช่วงบวกลงเล็กน้อยในช่วงปลายสัปดาห์สอดคล้องกับทิศทางตลาดหุ้นในภูมิภาคท่ามกลางความกังวลต่อทิศทางเศรษฐกิจโลก สัปดาห์ที่ 24-28 ต.. 2565 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,585 และ 1,575 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,600 และ 1,610 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ของบจ. ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนการประชุม ECB และ BOJ


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น