มาตรการโควิดเป็นศูนย์กดดันเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 2/2565 ขยายตัวเพียง 0.4%YoY ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์1/ที่ 1.5%YoY โดยช่วงครึ่งปีแรกเติบโตเพียง 2.5% เนื่องจากในช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 65 จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเร่งตัวสูงขึ้นทำให้ จีนมีการล็อกดาวน์เมืองสำคัญ เช่น เซี่ยงไฮ้ และปักกิ่ง ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ชะลอตัวลง ทั้งในส่วนของการผลิตสินค้า การขนส่งต่าง ๆ
ในระยะข้างหน้าเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งแรกของปี แต่ยังเผชิญความเสี่ยงสำคัญอีกหลายด้าน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภาคการเงินและการคลังจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในช่วงที่เหลือของปี 2565 หลังเผชิญการปิดเมืองจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกล่าสุด ล่าสุด จีนได้มีการออก 33 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เสียหายจากการปิดเมืองเมื่อวันที่ 31 พ.ค.65 ทั้งในส่วนการคลัง เช่น การขยายเวลาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการเลื่อนจ่ายประกันสังคมของธุรกิจขนาดเล็ก อย่างไรก็ตาม จีนยังเผชิญความเสี่ยงอีกหลายด้าน ทั้งในเรื่องมาตรการโควิดเป็นศูนย์ที่จะยังคงกระทบความเชื่อมั่นทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ขณะที่สถานการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลง แม้ว่าทางการจีนจะมีเข้ามากระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์บางส่วนผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR 5 ปีและผ่อนคลายกฎต่าง ๆ แต่สถานการณ์ปัจจุบันและความเชื่อมั่นที่ยังไม่กลับมาจะทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตของภาคเศรษฐกิจในระยะต่อไป
กล่าวโดยสรุปเศรษฐกิจจีนในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตลดลงจากที่เคยประเมินเดิม โดยคาดขยายตัวอยู่ที่ 3.7-4.2% มีปัจจัยหนุนจากมาตรการภาครัฐ ขณะที่ยังมีความเสี่ยงสำคัญคือนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทีจะยังฉุดรั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ และสถานการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่คลี่คลาย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น