ศูนย์วิจัยกกรไทยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 19-20 มีนาคม 2562 ทั้งนี้ สถานการณ์ความเสี่ยงจากภายนอกประเทศที่อยู่ในระดับสูง ตลอดจนการชะลอลงของกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ชะลอลง ส่งผลให้เฟดจะส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียง 1 ครั้งในปีนี้ ซึ่งหมายถึงการทิ้งจังหวะเวลายาวขึ้นในการคงอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะเห็นความชัดเจนของข้อมูลภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่ในส่วนของการปรับลดขนาดงบดุล เฟดน่าจะยังคงดำเนินการปรับลดขนาดงบดุลที่ระดับ 50 พันล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือนไปอีกระยะ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการดำเนินนโยบายทางการเงิน (policy space) ไว้เพื่อรองรับวัฏจักรเศรษฐกิจที่อาจชะลอลงในระยะข้างหน้า ท่ามกลางเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงขยายตัวได้ดีกว่าระดับศักยภาพในระยะยาวในปีนี้
สำหรับผลต่อเศรษฐกิจไทย การส่งสัญญาณชะลอความเข้มงวดในการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะไม่เป็นปัจจัยหนุนการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ฯ มากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบางส่วนแล้ว มองไปข้างหน้า การเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ฯ ยังมีทิศทางผันผวนจากปัจจัยการเมืองในประเทศสหรัฐฯ ตลอดจน เหตุการณ์สำคัญที่จะเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ ทั้งการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ตลอดจน ประเด็น Brexit ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาค รวมทั้งเงินบาทมีความผันผวนตามไปด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น