จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ
-
เป้าหมายทางเศรษฐกิจจีนในปี 2566 บ่งชี้ว่าในระยะต่อไปจีนน่าจะให้ความสำคัญกับการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตภายในประเทศผ่านการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนสะท้อนผ่านเป้าหมายการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 12 ล้านตำแหน่ง (ปี 2565 อยู่ที่ 11 ล้านตำแหน่ง)
-
สำหรับเป้าหมายทางเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ เช่น เงินเฟ้อยังคงไว้ที่ 3% ตามเดิมสะท้อนว่าการเปิดประเทศของจีนจะไม่ได้ทำให้เกิดการเร่งตัวของการใช้จ่ายจนกดดันระดับอัตราเงินเฟ้อให้เร่งตัวขึ้นมาก ขณะที่เป้าหมายค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 7.2% ซึ่งมาจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯและจีน รวมถึงจีนกับไต้หวันที่ยังไม่คลี่คลาย
-
จีนยังเผชิญความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในหลายด้าน ทั้งจากสถานการณ์ภายในประเทศ เช่นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และสถานการณ์หนี้ของรัฐบาลท้องถิ่น
จีนเตรียมพร้อมเพื่อพัฒนาเพื่อพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยี รวมถึงส่งสัญญาณพร้อมรับเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ นับเป็นการตอกย้ำเป้าหมายสำคัญในการประชุม CEWC ช่วงเดือน ธ.ค.65 ที่ผ่านมา
-
สำหรับประเด็นอื่น ๆ ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงประเด็นเกี่ยวกับการพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยี โดยจะให้ความสำคัญการลงทุนในเรื่องการวิจัยต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น
-
ในที่ประชุมได้มีการพูดถึงการเข้าร่วมเป็นสมาชิก CPTPP ซึ่งเปรียบเสมือนการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมเปิดรับการเข้ามาลงทุนของบริษัทต่างชาติ โดยคาดว่าจะมีการปรับลดเงื่อนไขต่าง ๆ ให้เข้ามาลงทุนได้ง่ายขึ้น เช่น การจดทำมาตรการฐาน (Equal Treatment) ให้เท่าเทียมกับธุรกิจภายในประเทศ
สี จิ้นผิงได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 3 อย่างเป็นเอกฉันท์
-
ในการประชุมมีการรับรองให้สี จิ้นผิง ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 อย่างเป็นทางการ ถือเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของจีน รวมถึงรับรองหลี่ เฉี่ยงผู้ที่ถูกได้รับความไว้วางใจอย่างมากจากสี จิ้นผิงขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สะท้อนการรวมอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดที่มากขึ้น ซึ่งจะทำให้การออกนโยบายต่าง ๆ เป็นไปในทิศทางเดียวกันมากขึ้น
-
ด้านตำแหน่งสำคัญทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น ผู้ว่าธนาคารกลางจีน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ยังมีการดำรงตำแหน่งตามเดิม บ่งชี้ถึงความต่อเนื่องทางนโยบายต่าง ๆ ที่ได้มีการดำเนินการไว้
-
ทั้งนี้ ตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมมีการแต่งตั้ง หลี่ ฉางฟู ขึ้นดำรงตำแหน่ง โดยปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนายุทโธปกรณ์แห่งคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ซึ่งคาดว่าจะเข้ามาช่วยปรับปรุงกองทัพของจีนสู่ความทันสมัยมากขึ้น
ภาพรวมมองเศรษฐกิจจีนปี 2566 เติบโตดีขึ้นกว่าที่เคยประเมิน โดยมองว่าทั้งปี 2566 มีแนวโน้มเติบโตที่ 5.2% ท่ามกลางความเสี่ยงที่ยังต้องจับตามองอีกหลายด้าน
-
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าจีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ 5% ได้ ทั้งจากการเปิดเมืองของจีน การให้ความสำคัญทางเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยคาดการณ์ว่าปี 2566 จีนจะเติบโตได้ที่ 5.2% สูงกว่าที่เคยประเมินเดิม เนื่องจากผลกระทบจากการเปิดเมืองของจีนมีแนวโน้มน้อยกว่าที่คาดการณ์ ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ค่อนข้างเร็วสะท้อนผ่านตัวเลข PMI ในเดือนม.ค.-ก.พ. ที่ออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ในระดับขยายตัว
|
Click ชมคลิป
จีนปิดฉากประชุม 2 สภา ปี 66 มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพและพึ่งพาตนเองในด้านเทคโนโลยี |
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น