ตลาดปูนซีเมนต์ภายในประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2551 ยังคงซบเซา เนื่องมาจากปัจจัยหลายๆด้าน ได้แก่ ราคาพลังงานและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ภาวะเงินเฟ้อที่กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค การลงทุนของภาครัฐที่ยังไม่มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่เริ่มดำเนินการก่อสร้าง ทำให้ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ยังคงต้องปรับตัวโดยพยายามหาตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศ แต่ด้วยสภาวะเศรษฐกิจโลกที่กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากปัญหาซับไพรม์ รวมทั้งประเทศต่างๆทั่วโลกก็เผชิญกับเงินเฟ้อที่อยู่ในอัตราสูง จึงทำให้ปริมาณการส่งออกของปูนซีเมนต์ที่ส่งไปต่างประเทศหดตัวในช่วง 4 เดือนแรกของปี จากที่เคยขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะ 3 ปีที่ผ่านมา แต่ในด้านมูลค่าการส่งออกปูนซีเมนต์ยังคงขยายตัวได้เป็นเพราะราคาปูนซีเมนต์ที่ปรับตัวสูงขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ แนวโน้มของความต้องการปูนซีเมนต์ในช่วงที่เหลือของปี 2551 ว่า ตลาดภายในประเทศอาจจะยังเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ได้แก่ ปัญหาค่าครองชีพของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ขณะที่ราคาพลังงานและราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก และยังมีแนวโน้มผันผวนอยู่ในช่วงขาขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชะลอการเริ่มต้นโครงการใหม่ รวมทั้งผู้รับเหมาก่อสร้างชะลอการรับงาน เพราะไม่ต้องการรับความเสี่ยงที่จะเกิดจากความผันผวนของราคาวัสดุก่อสร้าง นอกจากนี้เสถียรภาพทางการเมืองในระยะข้างหน้าอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน รวมทั้งอาจส่งผลให้โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐบาลต้องล่าช้าออกไป จากปัจจัยเสี่ยงที่มีเพิ่มขึ้น คาดว่าสภาวะการก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปี จะยังคงชะลอตัว แม้ว่าจะมีปัจจัยในด้านมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโครงการสินเชื่อพิเศษจากธนาคารของรัฐ แต่ต้องยอมรับว่าแรงกดดันต่ออำนาจซื้อของผู้บริโภคยังคงมีเพิ่มขึ้น ด้วยเหตุนี้ คาดว่า ตลอดทั้งปี 2551 นี้ ความต้องการปูนซีเมนต์ภายในประเทศคงจะหดตัวลงประมาณร้อยละ 2.5 ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องจากปี 2550 ที่หดตัวร้อยละ 5
ในส่วนของตลาดต่างประเทศ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ตลอดปี 2551 ปริมาณการส่งออกปูนซีเมนต์จะหดตัวลงประมาณร้อยละ 1.9 จากที่เคยมีอัตราการเจริญเติบโตถึงร้อยละ 24.1 ในช่วงปี 2550 ที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจาก ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนของผู้ผลิต ภาวะเงินเฟ้อซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังเผชิญ รวมทั้งเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักๆ เช่น อเมริกา เวียดนาม ชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามผู้ผลิตเองได้ขยายตลาดใหม่ๆ เช่น กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา ที่ยังมีความต้องการปูนซีเมนต์อยู่ในระดับสูงเนื่องมาจากภาคการก่อสร้างของหลายๆประเทศในภูมิภาคเหล่านี้ยังคงขยายตัวอยู่
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น