ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 2555 ที่ผ่านมา มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง โดยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการขยายโครงข่ายบริการ 3G เชิงพาณิชย์บนคลื่นความถี่เดิมที่ครอบคลุมทั่วประเทศมากขึ้น พร้อมทั้งการเพิ่มขึ้นของฐานผู้บริโภคที่ใช้บริการ 3G บนโครงข่ายดังกล่าว ตลอดจนแรงหนุนจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ส่งผลให้ตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยรวมของปี 2555 เติบโตร้อยละ 11.5 ใกล้เคียงกับปี 2554 ซึ่งมีการเติบโตร้อยละ 11.8 โดยมีแรงผลักดันหลักจากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการใช้บริการด้านข้อมูล ซึ่งมีการขยายตัวสูงถึงร้อยละ 44.1 เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 34.7 ในปีก่อนหน้า ในขณะที่การใช้บริการด้านเสียงมีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอลงจากร้อยละ 7.1 ในปี 2554 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.0 ในปี 2555
สำหรับแนวโน้มโดยรวมในปี 2556 นั้น การทยอยเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ตามเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 คาดว่า จะเป็นปัจจัยหลักในการผลักดันการเติบโตของธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเฉพาะบริการด้านข้อมูล เนื่องจาก จะช่วยขจัดข้อจำกัดด้านคุณภาพการให้บริการข้อมูลในบริการ 3G บนคลื่นความถี่เดิมที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ประกอบกับแรงหนุนจากการออกโปรโมชั่นทางการตลาดของผู้ให้บริการโทรคมนาคมเพื่อจูงใจผู้บริโภคให้หันมาใช้บริการ 3G ใหม่ เพื่อลดต้นทุนจากการจ่ายส่วนแบ่งรายได้ และยังเป็นการลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการบางรายที่สัญญาสัมปทานในระบบ 2G จะหมดลงในอนาคตอันใกล้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ภาพรวมของตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปี 2556 จะเติบโตประมาณร้อยละ 12.8-15.2 โดยมีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 213,600-217,100 ล้านบาท ในจำนวนนี้คิดเป็นแรงหนุนจากการใช้บริการด้านข้อมูลคิดเป็นมูลค่า 70,900-74,800 ล้านบาท ขยายตัวราวร้อยละ 39.7-47.5
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น