ทิศทางอุตสาหกรรมก่อสร้างปีม้าไม่คึกคัก...เผชิญศึกปัจจัยท้าทายรอบด้าน (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 2450)

สำหรับภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2557 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จะมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากปี 2556 ซึ่งมีผลมาจากปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่มีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน รวมถึงการกำหนดนโยบายการลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่จะมีผลต่อเนื่องไปยังการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามเสถียรภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะจะมีผลต่อกิจกรรมการลงทุนในประเทศไทยจากนักลงทุนต่างชาติ

อย่างไรก็ดี ภาคก่อสร้างยังมีแรงหนุนเฉพาะจากกิจกรรมเศรษฐกิจในส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะผลประโยชน์ต่อเนื่องจากการค้าและการลงทุนที่คึกคักตามแนวชายแดนและพื้นที่ใกล้เคียง ก็จะส่งผลให้การลงทุนก่อสร้างในกลุ่มพาณิชยกรรมเติบโตตามไปด้วย และอาจทำให้เกิดการพัฒนาสิ่งจำเป็นพื้นฐานจากภาครัฐตามมา นอกจากนี้ การเร่งลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้ทันและพร้อมสำหรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 ก็เป็นอีกโอกาสหนึ่งสำหรับกลุ่มผู้รับเหมาในต่างจังหวัดในการเข้าร่วมลงทุน และด้วยเหตุจากปัจจัยบวกนี้ น่าจะส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2557 ขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5 – 5.0 หรือมีมูลค่า 994,500 – 1,018,500 ล้านบาท จากมูลค่าการก่อสร้างในปี 2556 ที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินไว้ที่ 970,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2557 ที่ไม่ร้อนแรงเกินไป อาจช่วยลดความกดดันจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้นจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐหลายโครงการ ตามแผนเดิมที่วางไว้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมในกรอบวงเงิน 2 ล้านล้านบาท ได้ชะลอโครงการออกไป ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มผู้รับเหมามีเวลาเพิ่มขึ้น เพื่อวางแผนบริหารจัดการต้นทุนวัสดุก่อสร้างที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามการขยายตัวของโครงการก่อสร้างที่เกิดขึ้นในเวลาใกล้กัน