ช่วงครึ่งหลังของปี 2557 การขับเคลื่อนนโยบายการลงทุนของภาครัฐมีความชัดเจนมากขึ้น โดยภาครัฐได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนศักยภาพการแข่งขันทางการค้าและการลงทุนของไทยและผลักดันกิจกรรมทางเศรษฐกิจในไทยให้เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงรองรับการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จึงเห็นชอบแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมในระยะเร่งด่วนที่จะเร่งดำเนินการในปี 2557-2558 ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ.2558-2565 ด้วยกรอบวงเงินลงทุนเบื้องต้น 2,400,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ภาครัฐยังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2557-2558 จำนวน 5 มาตรการ ด้วยกรอบวงเงินลงทุนโดยรวม 364,465 ล้านบาท โดยมีเป้าหมายเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนของหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ เพื่อใช้ในการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างของหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ และช่วยเหลือทางการเงินให้แก่เกษตรกรชาวนาที่มีรายได้น้อย
อย่างไรก็ดี การเร่งรัดเบิกจ่ายงบลงทุนภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2557-2558 อาจมีผลต่อกิจกรรมการก่อสร้างของภาครัฐในช่วงที่เหลืออยู่ของปี 2557 จำนวนจำกัด ด้วยเหตุนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในครึ่งหลังของปี 2557 น่าจะอยู่ในกรอบ 228,000 – 235,000 ล้านบาท หรือขยายตัวร้อยละ 4.8 – 8.0 (Y-o-Y) อย่างไรก็ดี มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐที่หดตัวลงช่วงครึ่งปีแรกถึงร้อยละ 4.8 (Y-o-Y) จะส่งผลให้ มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐตลอดทั้งปี 2557 มีแนวโน้มขยายตัวในอัตราไม่สูงนักที่ร้อยละ 0.02 – 1.7
และผลจากมาตรการฯดังกล่าวน่าจะมีผลให้มูลค่าการลงทุนในการก่อสร้างของภาครัฐในปี 2558 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2557 ถึงร้อยละ 7.0 – 10.0 หรือคิดเป็นมูลค่า 464,000- 477,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ โครงการภาครัฐส่วนใหญ่ที่จะลงทุนในปี 2558 จะเป็นโครงการเดิมที่มีความจำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่อง ส่วนการลงทุนในโครงการใหม่อาจมีเม็ดเงินลงทุนในกรอบที่จำกัด อย่างไรก็ดี โครงการใหม่ๆที่จะลงทุนในปี 2558 ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่กับกระบวนการดำเนินงานและการพิจารณาของภาครัฐ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น