ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่าภาครัฐกำลังมีแนวโน้มที่จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญในการสร้างความเป็นธรรมให้กับธุรกิจค้าปลีกค้าส่งมากขึ้น ด้วยการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ…... เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ว่าจะยังไม่ได้ผ่านการเห็นชอบและมีผลบังคับใช้ โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้กระทรวงพาณิชย์นำร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง พ.ศ.... ฉบับดังกล่าวกลับไปทบทวนตามข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีในบางประเด็น เพื่อให้เกิดความรัดกุมและชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของพัฒนาการกฎหมายค้าปลีกเมืองไทยจากเดิมที่ไม่เคยมีกฎหมายดูแลธุรกิจค้าปลีกที่ทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยเฉพาะ และยังมีเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อจัดระบบธุรกิจให้ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งทุกประเภท และทุกขนาดอยู่ร่วมกันได้ภายใต้การแข่งขันที่เป็นธรรม และให้ผู้บริโภคมีทางเลือกในแหล่งจัดซื้อ และการบริโภคสินค้า แต่ทั้งนี้ก็ควรเร่งดำเนินการให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว และมีมาตรการที่ชัดเจนเกี่ยวกับการส่งเสริมศักยภาพด้านการแข่งขัน รวมถึงมีความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย เพื่อให้ธุรกิจค้าปลีกเมืองไทยเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนและเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งในระหว่างที่ร่างพระราชบัญญัติค้าปลีกค้าส่งฉบับใหม่ยังอยู่ระหว่างการแก้ไข และไม่มีกำหนดวันเวลาในการบังคับใช้ที่แน่นอน กลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่ก็ยังคงมีการวางแผนการดำเนินการธุรกิจอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆ ทั้งการขยายสาขาโดยเฉพาะการขยายสาขาในรูปแบบที่มีขนาดเล็กลง การสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย การตลาดเพื่อสังคมโดยหวังที่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของผู้บริโภคเพื่อลดความรุนแรงของกระแสต่อต้าน และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่โดดเด่น ขณะที่กลุ่มผู้ประกอบการค้าปลีกแบบดั้งเดิมที่ได้รับผลกระทบไม่น้อยจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีกสมัยใหม่ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ก็จำเป็นต้องเร่งปรับตัวด้วยกลยุทธ์ที่เป็นไปเพื่อความอยู่รอดมากกว่าเพื่อการแข่งขัน ทั้งในส่วนของการวิเคราะห์และหาตำแหน่งทางการตลาดที่เหมาะสม การนำเสนอสินค้าและบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยควรจะพัฒนาไปเป็นร้านค้าเฉพาะอย่างมากขึ้น การปรับปรุงบรรยากาศภายในร้านให้ดูมีระเบียบเพื่อให้สะดวกต่อการเลือกซื้อ การบริหารต้นทุนการผลิตให้ต่ำมากที่สุด การวางแผนป้องกันความเสี่ยงทางธุรกิจในด้านต่างๆ ขณะเดียวกันผู้ประกอบการควรมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงจะที่เกิดขึ้นในอนาคตด้วย เพื่อรองรับสิ่งต่างๆรอบตัวที่มีโอกาสปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาในยุคที่มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงเช่นปัจจุบัน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น