ภัยไซเบอร์อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการใช้บริการ B2C E-commerce ซึ่งจากผลสำรวจของศูนย์วิจัยกสิกรไทยสะท้อนว่า ประเด็นภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผลทำให้ผู้บริโภคมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการซื้อของออนไลน์ โดยราว 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมดมีการเพิ่มความระมัดระวังในการเลือกร้านค้า ช่องทางการชำระเงิน และบริการขนส่งที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ปัญหาเรื่องภัยไซเบอร์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันอาจจะไม่ได้มีผลต่อยอดขายของธุรกิจ B2C E-commerce ให้ชะลอลงอย่างชัดเจน สะท้อนจาก ปริมาณรายการในการชำระ/โอนเงินผ่าน Mobile Banking ในปี 2565 ที่ขยายตัวถึง 43% YoY อย่างไรก็ดี ภัยไซเบอร์อาจจะส่งผล กระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในแง่ของการปรับพฤติกรรมในการใช้แพลตฟอร์ม โดยอาจทำให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการซื้อของออนไลน์มากขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ ในปี 2566 คาดว่าธุรกิจ B2C E-commerce จะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง โดยมูลค่าตลาดจะเติบโตอยู่ที่ราว 4-6% YoY ชะลอลงจากช่วงโควิดที่ขยายตัวเฉลี่ยราว 27% ต่อปี ซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึงจากค่าครองชีพที่ยังคงกดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้จ่ายนอกบ้านมากขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย เป็นสำคัญ
ในระยะข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ถึงแม้กำลังซื้อของผู้บริโภคจะกลับมา แต่ธุรกิจ B2C E-commerce ยังคงต้องเผชิญกับความเสี่ยงในด้านความปลอดภัยจากการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่งของเทคโนโลยีดิจิทัล และการหลอกลวงที่มีความซับซ้อนกว่าเดิม ส่งผลให้ปัญหาเหล่านี้อาจจะมากระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในการซื้อสินค้าผ่าน B2C E-commerce ได้ ดังนั้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนบนห่วงโซ่ธุรกิจ และการปรับตัวของธุรกิจในการบริหารจัดการด้านความปลอดภัย จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการใช้บริการ รวมถึงส่งผลดีต่อความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว ท่ามกลางตลาดที่กำลังเข้าสู่ภาวะอิ่มตัวจากจำนวนประชากรไทยที่เริ่มมีแนวโน้มปรับลดลง และมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น