ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า
การดำเนินธุรกิจค้าปลีกภายใต้สภาวะ New normal แม้ว่าส่วนหนึ่งจะกระตุ้นให้ตลาดค้าปลีกออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตขึ้น
แต่ถึงกระนั้น ผู้ประกอบการค้าปลีกต่างก็เผชิญการแข่งขันที่รุนแรงและยากลำบากขึ้น
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการ E-Market place ต่างชาติ
ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบและเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น กล่าวคือ ภายหลังจากการเกิดวิกฤตโควิด-19 ทำให้ E-Market place ต่างชาติ
ซึ่งเน้นจำหน่ายสินค้าฟุ่มเฟือยหรือสินค้าไม่จำเป็น (Non-food) เช่น สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์ไอที เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
เผชิญความท้าทายและแรงกดดันรอบด้าน
ไม่ว่าจะเป็นกำลังซื้อที่ยังอ่อนแรงอย่างต่อเนื่องของผู้บริโภค
และคาดว่าจะยังไม่สามารถกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว การเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในกลุ่มสินค้า
Non-food กับผู้ประกอบการร้านค้าปลีกสินค้าเฉพาะ (Specialty
store) ที่มี Website หรือ Brand และยังใช้ความน่าเชื่อถือของแบรนด์
ควบคู่กับการจัดทำโปรโมชั่นและยกระดับคุณภาพของการให้บริการที่ดีสม่ำเสมอในการแย่งชิงกำลังซื้อของลูกค้า
นอกจากนี้ โอกาสเจาะตลาดสินค้ากลุ่มอาหาร
(Food) และอุปโภคบริโภค (FMCG) ก็จำกัดลงมาก เพราะบรรดาผู้ประกอบการค้าปลีก Modern trade อย่างพวกซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต
ต่างโหมเข้ามาทำการตลาดในกลุ่มสินค้านี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างรวดเร็ว และคาดว่าผู้ประกอบการค้าปลีก
Modern trade จะกลายเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทมากขึ้นในสินค้ากลุ่มนี้บนแพลตฟอร์มออนไลน์
ส่งผลให้คาดว่า ผลประกอบการของ E-Market place ต่างชาติ
น่าจะยังคงขาดทุนต่อเนื่องร้อยละ 30-40 ต่อปี เมื่อเทียบกับรายได้ในปี 2563-2565
และถือเป็นการขาดทุนมาโดยตลอดเฉลี่ยร้อยละ 46 ต่อปี
เมื่อเทียบกับรายได้ นับตั้งแต่ปีที่ผู้ประกอบการ E-Market place กลุ่มดังกล่าวเริ่มเข้ามาลงทุนแพลตฟอร์มและทำตลาดค้าปลีกออนไลน์ในไทย
และถึงแม้ว่าส่วนหนึ่งปัจจัยทางด้านโควิด-19
จะช่วยกระตุ้นให้ตลาดค้าปลีกออนไลน์โตขึ้นจากการเข้าสู่สภาวะ New normal แต่อีกส่วนหนึ่งก็กระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัว
และคาดว่าจะไม่กลับมาฟื้นตัวได้เร็วนัก ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงประเมินว่า
ตลาดค้าปลีกออนไลน์ B2C E-Commerce (เฉพาะสินค้า) ในปี 2563 แม้ว่าจะยังคงขยายตัวราวร้อยละ
8-10 แต่ก็เป็นอัตราที่ชะลอลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่ขยายตัวราวร้อยละ
20 หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 3.0-3.2 แสนล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 7.7 ของมูลค่าตลาดค้าปลีกรวม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น