ทางการจีนคงเผชิญกับความท้าทายอย่างมากในการดูแลสถานการณ์ความผันผวนของค่าเงินตลอดทั้งปีระกานี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่กำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงตรุษจีนหรือปลายเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ คงเป็นบททดสอบแรกของทางการจีนเนื่องจาก ระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนมีโอกาสที่จะปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ฯ อันเป็นระดับสำคัญทางจิตวิทยา ซึ่งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนที่ตามมา อาจนำมาสู่การออกมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติมได้ นอกจากนี้ หากการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจจีนมีความล่าช้า ก็คงจะทำให้ตลาดการเงินจีนถูกท้าทายอยู่เป็นระยะๆ และกลายเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบให้ตลาดการเงินของประเทศในภูมิภาคเอเชียมีความผันผวนตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีนี้
มองไปข้างหน้า ทางการจีนจะยังมีทรัพยากรในการตีกรอบปัญหาไม่ให้ลุกลามออกไปและเพียงพอที่จะรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนระดับหนึ่งในระยะยาว ทั้งนี้ ระดับทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับที่ไม่น่ากังวลมากนัก โดยระดับความมั่นคงของทุนสำรองฯ ขั้นต่ำที่เกินเกณฑ์ของ IMF ที่ควรมีไม่น้อยกว่า 150% ของภาระหนี้ระยะสั้น หรือ ไม่น้อยกว่า 10% ของปริมาณเงินในความหมายกว้าง (M2) นั่นคือ มีระดับทุนสำรองฯ ในปริมาณที่ไม่น้อยกว่า 1.5-2.0 ล้านดอลลาร์ฯ นอกจากนี้ ข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/59 ที่ขยายตัว 6.8% คงช่วยให้ทางการจีนผ่อนคลายความกังวลจากความเสี่ยงที่เศรษฐกิจอาจจะเผชิญการชะลอตัวอย่างรุนแรงหรือ Hard Landing ไปได้ส่วนหนึ่ง แต่คงต้องยอมรับว่าด้วยปัญหาความไม่สมดุลด้านเสถียรภาพที่มีอยู่ ก็มีโอกาสเช่นกันที่ทางการจีนอาจจะเลือกปล่อยให้การปรับตัวของตลาดการเงินเป็นไปอย่างอิสระมากขึ้น(สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอลง รวมทั้ง ลดภาระต้นทุนในการแทรกแซงตลาด)
สำหรับผลกระทบต่อไทยอาจจะอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง เนื่องจากทางการจีนยังคงพอมีทรัพยากรในการจัดการให้ตลาดกลับมาอยู่ในระดับที่เหมาะสมได้อยู่ รวมทั้งเสถียรภาพต่างประเทศของไทยก็ยังคงอยู่ในสถานะที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดี คงต้องเตรียมรับมือรับความผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะหาก ประธานาธิบดี ทรัมป์ ส่งสัญญาณถึงท่าทีในการดำเนินมาตรการด้านการค้าต่อจีน รวมถึงปฏิกริยาที่ทางการจีนอาจะโต้กลับต่อคำขู่ของสหรัฐฯ อันอาจจะเป็นต้นเหตุให้เกิดความปั่นป่วนตามมา
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น