Display mode (Doesn't show in master page preview)

11 มิถุนายน 2561

เศรษฐกิจต่างประเทศ

ประชุมเฟดรอบ 12-13 มิ.ย. 61 ... คาดเฟด ‘ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%’”หลังพัฒนาการการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งต่อเนื่อง (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3746)

คะแนนเฉลี่ย

​         ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%จากระดับ 1.50-1.75% เป็น 1.75-2.00% ในการประชุมรอบที่สี่ของปีนี้ ในวันที่ 12-13 มิถุนายน 2561 ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีพัฒนาการที่แข็งแกร่ง รวมทั้ง ทิศทางของเงินเฟ้อที่ปรับเข้าใกล้เป้าหมายเงินเฟ้อของเฟดมากขึ้น เป็นปัจจัยสนับสนุนการดำเนินนโยบายการเงินที่เป็นกลางเพื่อรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจในระยะยาวและป้องกันการเกิดภาวะฟองสบู่ อย่างไรก็ดี ปัจจัยที่ต้องติดตามในการประชุมเฟดครั้งนี้ คงได้แก่ การส่งสัญญาณถึงมุมมองอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยเฉพาะมุมมองดอกเบี้ยระยะยาว อันจะมีผลต่อเส้นทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในระยะ 1-2 ปีข้างหน้า ซึ่งอาจจะเป็นประเด็นที่สร้างความผันผวนต่อตลาดการเงินโลกได้ หากเฟดมีการปรับมุมมองของอัตราดอกเบี้ยในระยะยาวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
         สำหรับผลต่อประเทศไทย การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในครั้งนี้ อาจส่งผลให้ประเทศที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจต่างประเทศที่อ่อนแอ อาทิ อินเดีย อินโดนีเซีย และบราซิล อาจจะเผชิญกับภาวะการไหลออกของเงินทุนเพิ่มเติมได้ ทำให้เงินทุนบางส่วนไหลกลับสู่ตลาดสหรัฐฯ จากอัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดมากขึ้น และส่งผลให้ประเทศเหล่านั้นอาจจะต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดการไหลออกของเงินทุน ตลอดจนส่งผลให้ระดับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยทยอยปรับตัวสูงขึ้นตาม อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะเผชิญกับการไหลออกของเงินทุนอย่างฉลับพลันเหมือนกับประเทศดังกล่าวยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากเสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศของไทยอยู่ในระดับแข็งแกร่ง โดยระดับเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมีสูงกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับการชำระหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ตลอดจน การไหลออกของเงินทุนจากนักลงทุนต่างประเทศในตลาดทุนไทย ในส่วนของการดำเนินนโยบายการเงินของไทย แม้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด รวมทั้ง ประเทศในอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ อาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อการดำเนินนโยบายการเงินของไทยบางส่วน แต่ด้วยปัจจัยสภาพคล่องในประเทศที่ยังคงอยู่ในระดับสูงโดยสภาพคล่องส่วนเกินในระบบยังมีสูงกว่า 2 ล้านล้านบาท ยังคงสนับสนุนให้คณะกรรมการนโยบายการเงินของไทยยังสามารถที่จะคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 1.50 อีกระยะ เพื่อสนับสนุนความต่อเนื่องของการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ