Display mode (Doesn't show in master page preview)

12 กุมภาพันธ์ 2563

เศรษฐกิจต่างประเทศ

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียน 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์ฯ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3083)

คะแนนเฉลี่ย

​​​                 การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนให้เติบโตชะลอลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับจีน โดยผ่านทาง 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ ช่องทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า หากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยืดเยื้อยาวนานเกิน 3 เดือน (แต่ไม่เกิน 6 เดือน) อาจฉุดรั้งเศรษฐกิจจีนให้เติบโตต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ราวร้อยละ 1.0 และลงไปแตะที่ระดับประมาณร้อยละ 4.7

             ​ ทั้งนี้ จากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า หากพิจารณา 3 ช่องทางหลักที่เศรษฐกิจจีนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอาเซียน การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนโดยตรงจากจีนมายังอาเซียนในอัตราส่วนที่สูงที่สุด เนื่องจากมูลค่าการลงทุนโดยตรงมักมีความผันผวนอย่างมากไปตามเศรษฐกิจของประเทศ โดยหาก GDP ของจีนเติบโตลดลงร้อยละ 1.0 มูลค่าการลงทุนโดยตรงจากจีนไปยังอาเซียนคาดว่าจะลดลงถึงราวร้อยละ 2.8 ขณะที่ รายได้การท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวจีนและมูลค่าการส่งออกไปยังจีนของอาเซียนจะลดลงประมาณร้อยละ 1.5 และ ร้อยละ 1.2 ตามลำดับ ดังนั้น จากการประเมินผลกระทบผ่านทาง 3 ช่องทางหลัก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า หากเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลงร้อยละ 1.0 จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจอาเซียนในกรอบ 2.4-3.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 0.07-0.11 ของ GDP อาเซียนทั้งหมด สำหรับกรณีของไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า หากเศรษฐกิจจีนเติบโตลดลงร้อยละ 1.0 จะสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทยในกรอบประมาณ 500-700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 0.09-0.13 ของ GDP ทั้งปีของไทย โดยภาคการส่งออกของไทยได้รับผลกระทบสูงสุดถึงราว 300-400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

               ทั้งนี้ ผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนต่อแต่ละประเทศขึ้นอยู่กับสัดส่วนการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนของแต่ละประเทศเป็นหลัก ซึ่งหากพิจารณาถึงสัดส่วนการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนของประเทศในกลุ่มอาเซียนจะพบว่า ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ สปป.ลาว และกัมพูชา มีสัดส่วนการพึ่งพาจากจีนในระดับสูง ขณะที่ในส่วนของไทย สัดส่วนการพึ่งพาจากจีนอาจอยู่ในระดับปานกลาง เทียบเคียงกับมาเลเซียและเมียนมา ขณะที่บรูไน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีสัดส่วนการพึ่งพาจากจีนในระดับต่ำ อย่างไรก็ดี นอกจากสัดส่วนการพึ่งพาจากจีน ผลกระทบต่อเศรษฐกิจแต่ละประเทศในกลุ่มอาเซียนยังขึ้นอยู่กับความเข้มแข็ง โครงสร้างเศรษฐกิจ ตลอดจนความสามารถในการปรับตัวเพื่อลดทอนผลกระทบจากการชะลอลงของเศรษฐกิจจีนอีกด้วย


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ