ส่งออกทองคำพุ่ง...หนุนส่งออกไทยติดลบน้อยลงในเดือนมิ.ย. 2562 โดยการส่งออกสินค้าไทยในเดือนมิ.ย. 2562 มีมูลค่าอยู่ที่ 21,409.3 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 2.15 YoY ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 อย่างไรก็ตาม การส่งออกในเดือนมิ.ย. หดตัวน้อยลงเมื่อเทียบกับช่วง 3 เดือนก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งออกทองคำที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 317.4 YoY ซึ่งเมื่อหักมูลค่าส่งออกทองคำแล้ว ภาพรวมการส่งออกสินค้าไทยหดตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ -8.7 YoY โดยเป็นการหดตัวในการส่งออกสินค้าหลักไปยังตลาดคู่ค้าหลักทุกตลาด
เศรษฐกิจโลกชะลอ สงครามการค้าปะทุ....ฉุดส่งออกไทยครึ่งปีแรกหดตัวร้อยละ 2.9 โดยการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20,495.1 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 2.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกประกอบกับได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ทำให้ปริมาณการค้าโลกลดลงหลังมีการขยับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าระหว่างกันในเดือนพ.ค. อย่างไรก็ดี เมื่อมองไปในช่วงครึ่งหลัง ของปี 2562 บรรยากาศการค้าโลกแม้ว่าจะไม่ได้ดีขึ้น หลังสหรัฐฯ และจีนกลับเข้าสู่เส้นทางการเจรจาอีกครั้ง แต่สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศจะไม่แย่ลงไปกว่าช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากทางการสหรัฐฯ มีความระมัดระวังในการดำเนินมาตรการทางการค้าต่างๆ มากขึ้น นอกจากนี้ ประเทศเศรษฐกิจหลักอย่างจีนและสหรัฐฯ ก็คาดว่าจะมีมาตรการทางการเงินออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งก็น่าจะช่วยพยุงเศรษฐกิจโลกได้ด้วยในระดับหนึ่ง และเมื่อประกอบกับผลของฐานที่ต่ำในช่วงครึ่งหลังของปีก่อนด้วยแล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงประมาณการส่งออกสินค้าไทยตลอดทั้งปี 2562 ที่ร้อยละ 0.0 อย่างไรก็ตาม ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามซึ่งอาจจะกระทบต่อเส้นทางการส่งออกสินค้าไทยในช่วงที่เหลือของปี 2562 ได้ ไม่ว่าจะเป็นทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทที่ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขัน สภาพภูมิอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่อาจจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตร รวมไปถึงความไม่แน่นอนในเรื่องสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในระยะข้างหน้า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น