Display mode (Doesn't show in master page preview)

15 ธันวาคม 2565

Econ Digest

การประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค. 65 เฟดมีมติ...ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงตามคาดที่ 0.50%

คะแนนเฉลี่ย

การประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค. ที่ผ่านมา เฟดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่ชะลอลงที่ร้อยละ 0.50 ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายขยับมาอยู่ที่ระดับ 4.25-4.50% นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง และจะคงไว้ในระดับสูงยาวนานกว่าที่ตลาดคาด โดยจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าคณะกรรมการจะมั่นใจว่าเงินเฟ้อมีทิศทางปรับลดลงสู่เป้าหมายที่ 2.0% แม้เงินเฟ้อจะเริ่มส่งสัญญาณอ่อนแรงลง โดยจาก Fed Dot Plot เฟดคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ จะอยู่ที่ราว 5.1% ณ สิ้นปี 2566 ซึ่งมากกว่าที่ตลาดคาดก่อนหน้านี้ว่าดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะไปแตะระดับแตะระดับสูงที่ราว 4.75-5.00 % ขณะที่เฟดส่งสัญญาณจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 ต่างจากที่ตลาดมองก่อนหน้านี้ว่าเฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในไตรมาส 4/2566


ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ คงส่งผลให้โอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอยนั้นมีมากขึ้น สอดคล้องกับประมาณการของเฟดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวเพียง 0.5%  และอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% ในไตรมาส 4/2566  อย่างไรก็ดี ทิศทางนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าคงขึ้นอยู่กับตัวเลขเงินเฟ้อและการจ้างงาน โดยหากเงินเฟ้อยังคงไม่ปรับลดลงชัดเจน ขณะที่อัตราว่างงานไม่ได้พุ่งสูงเกินกว่าที่เฟดคาดการณ์ไว้ เฟดคงปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง และคงดอกเบี้ยในระดับนั้นตลอดทั้งปี 2566 ตามที่ได้ส่งสัญญาณไว้ แต่ถ้าหากผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดนั้นมีมากกว่าที่เฟดประเมิน อันนำไปสู่การพุ่งขึ้นของตัวเลขการว่างงานมากกว่าที่คาด และเงินเฟ้ออ่อนแรงลงเร็วกว่าที่คาด คงส่งผลให้เฟดคงต้องกลับมาชั่งน้ำหนักความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ และอาจปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในระยะข้างหน้าได้  




 


Click
 ชมคลิป การประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค. 65 เฟดมีมติ...ปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงตามคาดที่ 0.50%


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest