ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ความเสี่ยงระยะสั้นจากปัญหาไฟฟ้าสำรองไม่เพียงพอ ในช่วงที่พม่าหยุดซ่อมแท่นก๊าซ ระหว่างวันที่ 5-14 เมษายน 2556 ซึ่งถือเป็นช่วงที่เข้าใกล้เทศกาลสงกรานต์ ;เริ่มลดลง” เนื่องจากการรับทราบปัญหาก่อน ภาครัฐรวมทั้งภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรมต่างๆ จึงมีเวลาวางแผนรับมือได้ทัน ขณะที่ การซ่อมแซมแท่นก๊าซในพม่าก็มีความคืบหน้า ประกอบกับสภาพอากาศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คาดว่าจะมีพายุและฝนตก อาจช่วยลดปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าได้บางส่วน คนไทยจึงสามารถฉลองสงกรานต์ได้อย่างสบายใจ
อย่างไรก็ตาม ในระยะข้างหน้า ไทยยังมีความเสี่ยงด้านไฟฟ้าอยู่ 2 มิติ คือ ความเสี่ยงจากการพึ่งพิงเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติในสัดส่วนสูง และความเสี่ยงจากกำลังไฟฟ้าสำรองอยู่ในระดับต่ำลงจากความต้องการใช้ไฟฟ้าต่อปีที่เพิ่มสูง (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี 2556 จะเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 8-9 จากปีก่อน) และจากโรงไฟฟ้าใหม่ที่อาจเข้าระบบล่าช้ากว่าแผน
ดังนั้น การที่ไทยจะสามารถหลุดพ้นความเสี่ยงจากปัญหาไฟฟ้าตก-ดับ จำเป็นต้องมีหลายมาตรการ ทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนการประหยัดไฟฟ้าจากภาคส่วนต่างๆ รวมถึงการผลักดันแผนเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้า ภายใต้ทางเลือกด้านเชื้อเพลิงที่หลากหลาย และมีปริมาณที่เพียงพอที่จะนำมาผลิตไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนความต้องการในระยะยาว ตลอดจนต้นทุนการจัดหาที่เหมาะสมและยอมรับได้ของผู้ใช้ ประการสำคัญก็คือ การสร้างการรับรู้และความเข้าใจต่อผู้ใช้ไฟฟ้า เกี่ยวกับความจำเป็นของการเลือกใช้ประเภทเชื้อเพลิงที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยลดความกังวลทางด้านความปลอดภัยต่อชีวิตและสภาพแวดล้อม และเกิดพลังสนับสนุนการเกิดขึ้นของโรงไฟฟ้าใหม่ๆ จนนำไปสู่ความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น