Display mode (Doesn't show in master page preview)

28 เมษายน 2549

พลังงาน

พฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ : ปรับตัวในยุคน้ำมันแพง

คะแนนเฉลี่ย

ในภาวะที่ราคาน้ำมันในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาน้ำมันในตลาดโลกส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงหลากหลายธุรกิจอันเป็นผลมาจากการปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภค บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด สำรวจ "พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของคนกรุงเทพฯ" ในระหว่างวันที่ 10-23 เมษายน 2549 จากกลุ่มตัวอย่าง 505 คน โดยเป็นการสัมภาษณ์เชิงลึกเจาะจงเฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เป็นแม่บ้านหรือผู้มีหน้าที่จับจ่ายสินค้าอุปโภค/บริโภคของแต่ละครัวเรือน กระจายกลุ่มตัวอย่างตามอายุและรายได้ของครัวเรือน ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้มีผลทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยที่แตกต่างกัน

จากการสำรวจพบประเด็นสำคัญ ดังนี้

-น้ำมัน และต้นทุนการผลิตสูงขึ้น สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างระบุว่าราคาน้ำมัน และต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นเป็นสาเหตุสำคัญ 2 อันดับแรกที่ทำให้ราคาสินค้าและบริการมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 38.1 เห็นว่าการที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกดดันให้ราคาสินค้าสูงขึ้น รองลงมาร้อยละ 21.2 เห็นว่าต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างยังมีความเห็นว่าความไม่สงบทางการเมืองนั้นส่งผลต่อพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย ทั้งนี้กลุ่มตัวอย่างเริ่มระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยมีกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 79.2 เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยไปจากปกติ ทั้งนี้เนื่องจากไม่มั่นใจในสภาพเศรษฐกิจ ไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และอยู่ในภาวะเครียดกับการรับฟังข่าวสารเกี่ยวกับความไม่สงบทางการเมือง ทำให้ไม่ได้มีพฤติกรรมในการจับจ่ายใช้สอยตามปกติ

-การปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายในหลายลักษณะดังกล่าวของกลุ่มตัวอย่างส่งผลกระทบต่อธุรกิจหลากหลายประเภท โดยแยกพิจารณาออกได้ดังนี้

Jกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงบวก

-ธุรกิจจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป/อาหารสด เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างปรับพฤติกรรมโดยการหันมารับประทานอาหารสำเร็จรูป/กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น ทำให้ยอดจำหน่ายของร้านอาหารสำเร็จรูป/อาหารสดมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ผู้ประกอบการเหล่านี้จะได้รายได้เป็นกอบเป็นกำเพิ่มขึ้น โดยการปรับตัวตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เน้นประหยัด แต่ยังคงใส่ใจในเรื่องความสะอาดและรสชาติของอาหาร

-สินค้าอุปโภคประเภทเฮ้าส์แบรนด์ เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างปรับพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าอุปโภค โดยเน้นการพิจารณาที่ราคามากกว่าการยึดติดกับยี่ห้อของสินค้า ดังนั้นผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกที่หันมาผลิตสินค้าอุปโภคเฮ้าส์แบรนด์จะได้เปรียบเนื่องจากราคาจะถูกกว่าสินค้าประเภทเดียวกันที่มียี่ห้อของผู้ผลิตอื่นๆ นอกจากนี้บรรดาผู้ประกอบการผลิตสินค้าอุปโภคเริ่มทยอยปรับสินค้าเป็นแพ็กขนาดเล็กมากขึ้น ตอบสนองกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เน้นการซื้อสินค้าอุปโภคขนาดเล็ก หรือซื้อเท่าที่จำเป็นเท่านั้น

-ธุรกิจบริการรถสาธารณะ คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเริ่มปรับพฤติกรรมในการใช้รถยนต์ส่วนตัว โดยการใช้รถยนต์ส่วนตัวเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และหันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวคันเดียวกันในกรณีที่เคยมีการใช้หลายคัน นอกจากนี้คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจะหันไปใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้น รวมทั้งชักชวนและแนะนำให้คนในบ้านใช้บริการรถสาธารณะมากขึ้นด้วย

-ธุรกิจปั๊มก๊าซ คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างที่มีรถยนต์ส่วนตัวเริ่มหันมาติดตั้งระบบก๊าซ ทั้งนี้เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ดังนั้นในช่วงนี้ธุรกิจที่ติดตั้งระบบก๊าซจะมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการอย่างต่อเนื่อง และหลังจากนี้ธุรกิจปั๊มก๊าซก็จะมีลูกค้าเข้าไปใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรถสาธารณะ

-ธุรกิจโรงพยาบาล เดิมนั้นผู้ที่ใช้บริการโรงพยาบาลรัฐบาลก็มีจำนวนมากอยู่แล้ว ทำให้ต้องรอคิวค่อนข้างนาน ดังนั้นผู้ที่มีรายได้สูงขึ้นบางส่วนก็หันไปใช้โรงพยาบาลเอกชน โดยยอมเสียค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าเพื่อจะได้ไม่ต้องรอคิวนาน แต่เมื่อต้องประหยัดค่าใช้จ่ายทำให้จำนวนคนที่ต้องหันกลับไปใช้บริการโรงพยาบาลรัฐบาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนที่ได้มาตรฐานและราคาไม่แพงก็มีโอกาสที่จะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น เนื่องจากยังคงมีข้อได้เปรียบในเรื่องการที่ไม่ต้องรอคิวนาน

-ธุรกิจยาสมุนไพร การที่คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเน้นการประหยัดค่าใช้จ่ายนับว่าเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อยอดจำหน่ายยาสมุนไพร จากเดิมที่มีปัจจัยสนับสนุนในเรื่องเป็นยาที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติไม่ใช่ยาที่ใช้เคมีสังเคราะห์ รวมทั้งการพัฒนาสุขอนามัยในการผลิตและการบรรจุหีบห่อให้ทันสมัย ทำให้ยอดจำหน่ายยาสมุนไพรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

Lกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบเชิงลบ

-ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างปรับตัวโดยการงด/ลดการไปรับประทานอาหารนอกบ้าน และลด/งดการสังสรรกับเพื่อนๆ เท่ากับว่าความถี่ในการออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านลดลง ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบรรดาภัตตาคารและร้านอาหาร

-ธุรกิจน้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ฯลฯ เนื่องจากการปรับลดการบริโภคสินค้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย กอปรกับมีการรณรงค์ในเรื่องการลดการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ยานพาหนะ และการขึ้นราคาของน้ำอัดลมอันเป็นผลมาจากราคาน้ำตาลที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้คาดว่าบรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจเหล่านี้จะได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก

-ธุรกิจเสื้อผ้า/เครื่องประดับ และสินค้าที่มีราคาสูง เช่นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหญ่ๆ เป็นต้น คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างปรับพฤติกรรมลดการซื้อเสื้อผ้า/เครื่องประดับ และชะลอการซื้อสินค้าที่มีราคาสูงออกไปก่อน นอกจากนี้สินค้านำเข้าที่มีราคาสูงจะมียอดจำหน่ายลดลง เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างจะหันมาใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศมากขึ้นหรือหันไปซื้อสินค้ามือสองที่มีราคาถูกกว่า

-ธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องในแหล่งท่องเที่ยว การปรับพฤติกรรมของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างส่งผลกระทบต่อรายได้ของธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจบริการต่างๆที่เกี่ยวเนื่องในแหล่งท่องเที่ยว เนื่องจากมีจำนวนคนเดินทางท่องเที่ยวลดลง

-ธุรกิจสถานบริการเสริมความงาม เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างเน้นประหยัด ทำให้มีคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างถึงร้อยละ 14.1 ลด/งดการไปใช้บริการสถานบริการเสริมความงาม โดยบางกลุ่มนั้นลดความถี่ในการใช้บริการเสริมความงาม และบางกลุ่มงดการไปใช้บริการเสริมความงามโดยหันไปซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ไปทำเองที่บ้าน ซึ่งปัจจุบันเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆหาซื้อได้ง่าย โดยมีจำหน่ายตามร้านค้าปลีกทั่วไป และราคาไม่สูงมากนัก

-ธุรกิจโรงภาพยนตร์ ธุรกิจจัดคอนเสริต์ ธุรกิจสถานบันเทิง ธุรกิจเหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากมาตรการรัดเข็มขัด เนื่องจากผู้ใช้บริการจะลดความถี่ในการเข้าไปใช้บริการ

-ธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพ อาหารเสริมสุขภาพนั้นจัดว่าเป็นสินค้าประเภทฟุ่มเฟือย ดังนั้นอาหารเสริมสุขภาพจึงอยู่ในลำดับต้นๆที่ผู้บริโภคจะตัดออกจากรายการใช้จ่าย ทำให้เมื่อภาวะเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนมีปัญหาหรือได้รับผลกระทบจะส่งผลอย่างมากต่อธุรกิจอาหารเสริมสุขภาพ

-ธุรกิจจำหน่ายล็อตเตอรี่และหวย แม้ว่าโดยพฤติกรรมของคนไทยส่วนใหญ่จะชื่นชอบกับการเสี่ยงโชค แต่ในภาวะที่ไม่มีความมั่นใจในสภาพเศรษฐกิจยอดจำหน่ายลอตเตอรี่และหวย รวมทั้งเงินหมุนเวียนในธุรกิจการเสี่ยงโชคเกือบทุกประเภทมีแนวโน้มลดลง ซึ่งส่งผลต่อผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง

-ธุรกิจจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ เนื่องจากคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างลดการทำบุญ/บริจาคทาน ส่งผลกระทบต่อยอดจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์และธุรกิจอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญของคนกรุงเทพฯ เช่น ธุรกิจร้านอาหารเพื่อใส่บาตรพระในช่วงเช้า เป็นต้น นอกจากนี้คาดว่ารายได้ของบรรดาวัดต่างๆก็มีแนวโน้มลดลงด้วย

แม้ว่าปัญหาน้ำมันแพงนั้นเป็นปัญหาที่หลีกเลี่ยงได้ยาก เนื่องจากเป็นการปรับราคาขึ้นตามราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่มาตรการที่คนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มตัวอย่างหวังพึ่งรัฐบาลให้ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาผลกระทบจากน้ำมันแพง 5 อันดับแรกคือ ควบคุมการฉวยโอกาสปรับราคาสินค้า/บริการของบรรดาผู้ประกอบการ ไม่ขึ้นค่าบริการสาธารณูปโภคต่างๆในช่วงที่น้ำมันมีราคาแพง ปรับปรุง/เพิ่มบริการของรถสาธารณะ ลดภาษีเงินได้ และช่วยผู้ผลิตลดต้นทุนการผลิตสินค้า โดยหวังว่าถ้ารัฐบาลมีการดำเนินการควบคุมอย่างจริงจังก็จะช่วยบรรเทาความรุนแรงของปัญหาที่เกิดขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจในระดับครัวเรือนได้ในระดับหนึ่ง

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


พลังงาน