แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปี 2550 ในด้านทิศทางการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ในปี 2550 นั้น คาดว่า น่าจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี แม้ว่าจะมีปัจจัยบวกที่น่าจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ จากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยแล้วก็ตาม แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยง เช่น ประเด็นทางการเมืองที่มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ประกอบการ และส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคตของประชาชน ตลาดที่อยู่อาศัยอาจได้รับผลกระทบจากการที่ผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยชะลอการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยออกไป ซึ่งปัจจุบันปริมาณที่อยู่อาศัยรอขายในตลาดมีปริมาณค่อนข้างสูง จากผลสำรวจของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส พบว่า ณ สิ้นปี 2549 ที่อยู่อาศัยรอขายมีประมาณ 92,462 หน่วย ซึ่งใกล้เคียงกับปริมาณความต้องการที่อยู่อาศัยต่อปี ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลในปี 2550 มีประมาณ 74,500-77,500 หน่วย มีอัตราการเติบโตอยู่ในระหว่าง ลดลงร้อยละ 0.7 ถึง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 จากจำนวน 75,000 หน่วย ในปี 2549
สำหรับทิศทางการลงทุนในด้านอสังหาริมทรัพย์ในปี 2550 อาจจะขยายตัวประมาณร้อยละ 2.5-4.3 จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.1 ในปี 2549 โดยกรณีขั้นสูงอยู่ภายใต้ข้อสมมติที่โครงการคอนโดมิเนียมยังมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทิศทางเศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้น สำหรับกรณีขั้นต่ำ เป็นสถานการณ์ที่ปัจจัยลบทางการเมืองส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและรายได้ในอนาคตของประชาชน นอกจากนี้มาตรการป้องกันการเก็งกำไรค่าเงินบาท และการแก้ไขพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ที่อาจสร้างอุปสรรคต่อนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในปี 2550
|
2548
|
2549
ประมาณการ *
|
2550
ประมาณการ *
|
จำนวน (หน่วย)
|
จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
71,115
|
75,000
|
74,500-77,500
|
โครงการจัดสรร
|
35,935
|
31,000
|
29,500
|
โครงการคอนโดมิเนียม
|
9,939
|
15,000
|
15,000-18,000
|
บ้านปลูกสร้างเอง
|
25,241
|
29,000
|
30,000
|
อัตราการขยายตัว (%)
|
จำนวนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
|
8%
|
5.5%
|
-0.7% ถึง 3.3%
|
โครงการจัดสรร
|
-11.8%
|
-13.7%
|
-4.8%
|
โครงการคอนโดมิเนียม
|
23.3%
|
50.9%
|
0% ถึง 20%
|
บ้านปลูกสร้างเอง
|
27.1%
|
14.9%
|
3.5%
|
(รวบรวมจากโครงการจัดสรร, โครงการคอนโดมิเนียม และบ้านปลูกสร้างเอง,*ประมาณการ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)
สำหรับประเด็นที่ผู้ประกอบการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้ซื้อควรคำนึงถึง คือ การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หรือการเลือกซื้อที่อยู่อาศัย โดยขึ้นอยู่กับโครงการสาธารณะของภาครัฐ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ หรือโครงการรถไฟฟ้า ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งจะเห็นได้จากบทเรียนโครงการอสังหาริมทรัพย์รอบสนามบินสุวรรณภูมิ ที่เริ่มประสบปัญหาการขาย ในกรณีของโครงการรถไฟฟ้า แม้ว่ารัฐบาลจะมีมติเห็นชอบดำเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 5 เส้นทาง ซึ่งคาดว่าน่าจะส่งผลบวกต่อภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ในการพิจารณาศักยภาพของทำเล ผู้ประกอบการและผู้ซื้ออาจต้องมองปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย และประเมินถึงความเสี่ยงหากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแผนโครงการที่เคยกำหนดไว้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น