จีนเผชิญคลื่นความร้อนและภัยแล้งครั้งรุนแรง แม้สถานการณ์ได้เริ่มบรรเทาลงบ้างแล้วในบางพื้นที่ แต่คาดว่า วิกฤติคลื่นความร้อนนี้อาจลากยาวและส่งผลต่อพืชที่กำลังจะเก็บเกี่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ ดันความต้องการนำเข้าจากจีน โดยเฉพาะข้าว ข้าวสาลี และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
จีนน่าจะนำเข้าข้าวจากไทยเป็นหลักในช่วงที่เหลือของปี 2565 ในจังหวะที่ผลผลิตข้าวไทยกำลังออกสู่ตลาด ขณะที่เวียดนาม ปากีสถาน รวมถึงอินเดีย น่าจะมีข้อจำกัดด้านผลผลิตและมาตรการจำกัดการส่งออก โดยข้าวหอมมะลิไทยน่าจะได้รับผลบวกในการส่งออกไปจีน คาดอยู่ที่ 95,000-100,000 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7-11.3 (YoY) นอกจากนี้ การที่ไทยกับเวียดนามกำลังเตรียมหารือร่วมกันในการดูแลราคาข้าวในตลาดโลก จะช่วยหนุนราคาข้าวหอมมะลิและข้าวในภาพรวมให้มีแนวโน้มยืนระดับสูงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คงต้องจับตาสถานการณ์น้ำท่วมในไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ซึ่งอาจทำให้การส่งออกข้าวไทยไปจีนไม่ได้ผลบวกอย่างเต็มที่
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น