เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4 ปี 2562 ทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้าโดยขยายตัวที่ร้อยละ 6.0 (YoY) ซึ่ง ปัจจัยบวกจากการเจรจาทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ส่งผลให้ภาคการส่งออกและภาคการผลิตของจีนพลิกกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4/2562 โดยมีการเร่งส่งออกหลังจากที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณระงับการขึ้นภาษีและเจรจากับจีน อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจจีนโดยรวมในปี 2562 นั้นชะลอลงจากปี 2561 ค่อนข้างมาก โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 6.1 ลดลงอย่างมากจากร้อยละ 6.6 ในปี 2561 ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/2562 ถูกผลักดันจากปัจจัยชั่วคราวและฐานที่ต่ำเป็นหลัก ทั้งนี้ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ช่วยประคองเศรษฐกิจจีนในปี 2562 ได้ในระดับหนึ่ง ท่ามกลางเศรษฐกิจภายในประเทศที่มีความเปราะบาง
ทั้งนี้ แม้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 4/2562 จะบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้น อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจจีนยังคงมีโมเมนตัมที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุหลักจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแรงลง เนื่องจากปัจจัยด้านสงครามการค้าที่เริ่มส่งผลกระทบในวงกว้าง ท่ามกลางความเปราะบางของภาคการเงินที่มีมากขึ้น ดังนั้น แนวโน้มเศรษฐกิจจีนปี 2563 ยังคงจะไม่สดใส และน่าจะทรุดตัวลงจากปี 2562 โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2563 จะเติบโตที่ร้อยละ 5.7 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.5-5.9) โดยประเด็นเรื่องสงครามการค้ายังคงมีน้ำหนักอย่างมากที่จะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งหากสหรัฐฯ มีการปรับภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มเติม การส่งออกจีนอาจจะทรุดตัวลงอีก และส่งผลให้การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจเข้าใกล้กรอบคาดการณ์ล่างที่ร้อยละ 5.5 ทั้งนี้ การที่จีนยังใช้ระบบเศรษฐกิจแบบจัดการ (Managed Economy) ดังนั้น ท่ามกลางเศรษฐกิจที่อ่อนแรงลง ทางการจีนอาจผสมผสานการใช้นโยบายทางการเงินและการคลังที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงนโยบายรูปแบบใหม่ที่ตลาดไม่คาดคิด อันจะนำมาซึ่งความเสี่ยงเชิงนโยบายที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจซึ่งคาดการณ์ได้ยาก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น