สถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ยังคงส่อเค้าความรุนแรงต่อเนื่อง นำมาซึ่งมาตรการสูงสุดของทางการจีนเพื่อป้องกันและควบคุมโรคไม่ให้แพร่กระจายเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการระงับการสัญจรเข้าออกจากเมือง และการคมนาคมขนส่งภายในเมือง ครอบคลุม 18 เมืองภายในมณฑลหูเป่ย การระงับการดำเนินธุรกิจและจัดการท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ของผู้ประกอบการท่องเที่ยวจีนทั้งในและต่างประเทศ การสั่งปิดสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในเมืองอื่นๆ ของจีนที่คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก อาทิ กำแพงเมืองจีน เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ รวมถึงการขยายระยะเวลาช่วงวันหยุดตรุษจีนออกไปอีก 3 วันจากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 30 ม.ค. 2563 เพื่อชะลอการเดินทางของผู้คน
ทั้งนี้ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคคาบเกี่ยวกับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนมีการเดินทางท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ต่อเศรษฐกิจจีนเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 1 เดือน อาจสูงถึง 3 แสนล้านหยวน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 0.3 ของ GDP จีนทั้งปี ส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2563 อาจต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 5.5-5.9 โดยมีผลกระทบหลักๆ ผ่านทางภาคค้าปลีก ภาคขนส่ง และภาคบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการบริโภคและการท่องเที่ยว
มองไปข้างหน้า สถานการณ์การแพร่ระบาดของของเชื้อไวรัส 2019 Novel Coronavirus (n-CoV) ทั้งในจีนเองและนอกประเทศจีน ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยหากสถานการณ์ยื้ดเยื้อจะส่งผลให้เศรษฐกิจจีนเผชิญความเสี่ยงด้านลบเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ยังต้องจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีนในช่วงที่ผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโรคเพื่อชดเชยความเสียหายทางเศรษฐกิจซึ่งยังมีความไม่แน่นอน ท่ามกลางความสามารถในการใช้เครื่องมือทางการคลังของทางการจีนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับที่จำกัด ดังนี้แล้ว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจะคอยประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และจะมีการปรับปรุงตัวเลขทางเศรษฐกิจอีกครั้ง หากมีพัฒนาการใหม่ของระดับความรุนแรง ขอบเขตและความยืดเยื้อของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส 2019 Novel Corona virus (n-CoV) ในระยะข้างหน้า
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น