เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 กระทรวงพลังงานได้ประกาศมาตรการเพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้น้ำมันดีเซลมาตรฐานยูโร 5 ที่มีการปลดปล่อยสารประกอบกำมะถันให้เหลือเพียงไม่เกิน 10 PPM จากมาตรฐานยูโร 4 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า หากผู้ประกอบการเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลเกรดพรีเมียม (น้ำมันมาตรฐานยูโร 5) แทนการใช้น้ำมันดีเซลธรรมดา (น้ำมันมาตรฐานยูโร 4) ภายใต้การอุดหนุนราคาน้ำมันในปัจจุบัน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง ทำให้ค่าใช้จ่ายน้ำมันรวมค่าซ่อมบำรุงที่คำนวณในรูปมูลค่าปัจจุบัน มีค่าต่ำกว่าการใช้รถบรรทุกตามมาตรฐานยูโร 4
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังประเมินว่า ค่าใช้จ่ายในการปรับสภาพรถจะเป็นภาระต้นทุนของผู้ประกอบการ ดังนั้น การเพิ่มแรงจูงใจอื่น เช่น การชดเชยค่าใช้จ่ายปรับสภาพรถ รวมทั้งการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลยูโร 5 เพิ่มเติม จะมีส่วนช่วยลดภาระของผู้ประกอบการ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจปรับสภาพรถเพื่อเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลยูโร 5 ได้อย่างมีประสิทธิผล นอกจากนี้ ความสำเร็จของมาตรการยังขึ้นกับความพร้อมของสถานีบริการน้ำมันที่จะรองรับความต้องการใช้น้ำมันดีเซลยูโร 5 อีกด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น