Display mode (Doesn't show in master page preview)

26 พฤศจิกายน 2561

สถาบันการเงิน

สินเชื่อสุทธิในระบบธนาคารพาณิชย์ไทยเร่งตัวขึ้น ขณะที่เงินฝากภาครัฐเพิ่มสูงในเดือน ต.ค. 2561 (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3774)

คะแนนเฉลี่ย

          ภาพรวมสินเชื่อสุทธิเดือน ต.ค. 2561 กลับมาเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อน 8.2 หมื่นล้านบาท หรือ 0.73% มาที่ 11.427 ล้านล้านบาท จากการขยายตัวดีขึ้นของสินเชื่อรายย่อยทุกประเภท (สินเชื่อที่อยู่อาศัย เช่าซื้อ และสินเชื่อไม่มีหลักประกัน) และสินเชื่อธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ส่วนสินเชื่อธุรกิจเอสเอ็มอียังบวกเล็กน้อย ขณะที่ภาพรวมเงินฝากปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าถึง 2.28 แสนล้านบาท หรือ 1.86% MoM มาที่ 12.504 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากธนาคารขนาดใหญ่ โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็นเงินฝากภาครัฐในเข้ามาพักในบัญชี CASA ที่เหลือเป็นเงินฝากเอกชนทั้งบัญชี CASA และเงินฝากประจำ มีผลให้สภาพคล่องของธนาคารผ่อนคลายลง โดยสัดส่วนเงินให้สินเชื่อรวมต่อเงินฝากที่รวมตราสารหนี้ที่ออกและเงินกู้ยืม (LTD+Borrowing Ratio) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 86.72% จากระดับ 87.43% ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับอัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่องต่อสินทรัพย์รวมที่ปรับขึ้นมาที่ 21.64% จากระดับ 21.30% ในเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา

       สำหรับแนวโน้มในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงมองว่า สถานการณ์สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์จะยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะช่วยทำให้ภาพรวมของสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ทั้งปี 2561 เติบโตได้ใกล้เคียงกับตัวเลขประมาณการที่ 6.0% โดยมีสินเชื่อรายย่อยเป็นตัวนำการขับเคลื่อนหลัก ทั้งสิ​นเชื่อเช่าซื้อรถยนต์น่าจะได้รับอานิสงส์จากการเปิดตัวรถรุ่นใหม่และรายการส่งเสริมการขายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยอาจมีทิศทางที่เร่งขึ้นตามธุรกรรมการซื้อที่อยู่อาศัยก่อนที่เกณฑ์กำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธปท. จะมีผลบังคับใช้ ขณะที่การแข่งขันของผู้ประกอบการในการกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรที่มีข้อเสนอการให้สิทธิประโยชน์สูงขึ้นและครอบคลุมการใช้จ่ายในหมวดต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ก็น่าจะเพิ่มแรงหนุนต่อสินเชื่อบัตรเครดิตด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องติดตามสถานการณ์สินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อเอสเอ็มอี ว่าจะประคองการให้สินเชื่อใหม่เพื่อชดเชยการชำระคืนได้เพียงใด 

          ด้านแนวโน้มเงินฝากในอีก 2 เดือนข้างหน้า คาดว่าจะยังไม่เห็นการแข่งขันระดมเงินฝากในวงกว้าง เนื่องจากสภาพคล่องในระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อาจจะเริ่มเห็นการออกผลิตภัณฑ์เงินฝากที่มีระยะเวลาการฝากยาวขึ้นเพื่อล็อกต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายบางส่วน ทั้งนี้ ประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะใกล้คงอยู่ที่ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในเดือน ธ.ค.นี้ รวมถึงสัญญาณและท่าทีต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของไทยในปีหน้า ซึ่งอาจจะมีผลต่อเนื่องต่อทิศทางของอัตราดอกเบี้ยหลายประเภทที่จะเปลี่ยนแปลงไป


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม