ในปี 2562 นี้ผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและปริมณฑลต้องเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายอย่างมากในการที่จะสร้างยอดขายในภาวะที่เผชิญกับกำลังซื้อที่ยังฟื้นตัวไม่ทั่วถึง รวมถึงปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจต่างๆที่อาจมีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ในภาวะเช่นนี้ผู้ประกอบการอาจจำเป็นต้องเลือกเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการและมีความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 1-2 ปี ข้างหน้านี้ อาทิ กลุ่ม Gen-Y ที่มีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองหลังแรก
จากการประเมินของศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า กลุ่มประชากร Gen-Y ที่อาจเป็นเป้าหมาย (Potential Demand) ในการซื้อที่อยู่อาศัยใน 1-2 ปีนี้ ได้แก่ประชากรที่มีอายุระหว่าง 25-38 ปี มีรายได้มากกว่า 40,000 บาทต่อเดือน และมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายไม่เกินร้อยละ 50 ของรายได้ต่อเดือน ยังไม่มีที่อยู่เป็นของตนเอง และมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วง 1-2 ปี โดยประชากรในกลุ่มนี้มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 4.3 ของประชากร Gen-Y ทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล โดยมองหาที่อยู่อาศัยในราคาประมาณ 2.5 ล้านบาท ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพรอบนอก และปริมณฑล
อย่างไรก็ตามการเจาะกลุ่มเป้าหมาย Gen-Y ยังมีความท้าทายที่สำคัญจากความต้องการที่หลากหลายของประชากรในกลุ่มนี้รวมไปถึงช่องว่างระหว่างราคาที่ต้องการซื้อและราคาขาย (Price Mismatch) ของที่อยู่อาศัยในกรุงเทพและ ปริมณฑล ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการระบายที่อยู่อาศัยค้างขายและที่มีแผนจะเปิดโครงการใหม่อาจเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบและพัฒนาที่อยู่อาศัย และ เน้นการบริหารจัดการต้นทุน ให้สามารถเพิ่มยอดขายในกลุ่ม Gen-Y ที่เป็นกลุ่ม Potential Demand
ทั้งนี้จากผลสำรวจ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่ม Gen-Y ที่เป็น Potential Demand ในกรุงเทพและปริมณฑลในระหว่างปี 2562-2563 มีสูงถึง 42,000 - 50,000 หน่วยต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนหน่วยที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อและปิดการขายได้จริงยังคงขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและคุณสมบัติต่างๆของผู้กู้ ซึ่งทำให้ยังคงต้องติดตามว่ายอดขายที่จะเกิดขึ้นจริงในกลุ่ม Gen-Y นี้จะออกมาเท่าใด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น