1 สิงหาคม 2562
เศรษฐกิจต่างประเทศ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปีตามที่ตลาดคาด ไปที่กรอบ 2.00-2.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 ก.ค. 2562 อย่างไรก็ดี ยังไม่ปรากฎสัญญาณใดๆ จากถ้อยแถลงของประธานเฟด ที่บ่งชี้ถึงโอกาสของการปรับลดดอกเบี้ยรอบต่อไป ซึ่งผลการประชุมเฟดล่าสุดนี้ สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนและตลาดการเงินทั่วโลกที่รอคอยและคาดหวังว่าจะเห็นท่าทีที่ผ่อนคลายมากกว่านี้จากเฟด ขณะที่ เงินบาทอ่อนค่าลงกลับมาที่ระดับประมาณ 30.85 บาทต่อดอลลาร์ฯ (ณ 1 ส.ค. 2562) ... อ่านต่อ
FileSize KB
10 ตุลาคม 2561
เป็นที่น่าสังเกตว่า ค่าเงินบาทและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว เริ่มมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ “แกว่งตัว” ชัดเจนขึ้นเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี โดยเงินบาทอ่อนค่าไปแตะระดับ 33.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา (ซึ่งเป็นวันที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยประมาณ 4.63 และ3.26 พันล้านบาท ตามลำดับ) หรือคิดเป็นอัตราการอ่อนค่าถึง 2.6% เพียงไม่กี่วันจากระดับ 32.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นเดือนต.ค. 2561 ขณะที่ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยิลด์) ของไทยระยะ 10 ปี ขยับขึ้นต่อเนื่องไปที่ 2.88% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2559 สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาทนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า แม้ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและเครื่องชี้เสถียรภาพต่างประเทศที่ค่อนข้างแข็งแกร่งของไทย อาจจะช่วยบรรเทาความผันผวนของค่าเงินบาทลงได้บ้างบางส่วน อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบที่อ่อนค่าลง เพราะปัจจัยแวดล้อมที่รออยู่ในระยะที่เหลือของปี ทั้งการคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ทรงตัวในระดับสูง รวมถึงข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แม้จะไม่ใช่ปัจจัยใหม่ แต่เมื่อผนวกกับช่วงห่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ และไทย ก็อาจจะทำให้ทิศทางของเงินบาท "มีความอ่อนไหว" ต่อปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มากขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทย ยังคงตัวเลขคาดการณ์ค่าเงินบาท ณ สิ้นปี 2561 ที่ระดับ 33.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ (กรอบคาดการณ์ที่ 32.50-33.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ) ... อ่านต่อ
15 สิงหาคม 2561
ในปี 2561 เป็นปีที่เศรษฐกิจตุรกีอาจจะเผชิญกับแรงกดดันที่มาจากรอบด้าน ท่ามกลางปัจจัยเสี่ยงต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจที่เข้ามารุมเร้า ทั้ง การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ที่เร่งการไหลออกของเงินทุนตลอดจน กดดันให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว การปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันและการอ่อนค่าลงของเงิน Lira ที่ส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อทะยานขึ้น ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่าปัจจัยที่กระตุ้นให้ค่าเงิน Lira เผชิญกับวิกฤติรอบใหม่ นั้นมาจากปัจจัยการเมืองระหว่างตุรกีกับสหรัฐฯที่ตึงเครียดขึ้นอย่างมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจจะดำเนินมาตรการกีดดันการค้าที่เข้มงวดขึ้นกับตุรกี ส่งผลให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจตุรกี ... อ่านต่อ
26 กรกฎาคม 2561
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75-2.00% ในการประชุมรอบห้าของปีนี้ ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะมีนัยสำคัญต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงที่เหลือของปีนี้คงหนีไม่พ้น ประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าหลัก โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งอาจจะกลายเป็นความเสี่ยงที่ส่งผลให้การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอลงได้ อย่างไรดี ปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ยังคงแข็งแกร่ง ยังคงเปิดโอกาสให้เฟดสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไปอีก 1-2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้ได้ มองไปข้างหน้า เฟดอาจจะเผชิญกับปัจจัยท้าทายมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงินโดยเฉพาะในปี 2562 ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดน่าจะปรับขึ้นเข้าใกล้กับระดับดุลยภาพ โดยเฉพาะกรณีที่คาดการณ์เงินเฟ้อในระยะข้างหน้าของตลาดที่ยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ อาจจะส่งผลให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มีความเสี่ยงที่จะเป็นแบบลาดลง (Inverted yield curve) ขณะที่ เฟดอาจจะต้องปรับเปลี่ยนการส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเข้าใกล้กับระดับดุลยภาพ โดยเฟดจะต้องชั่งนำหนักระหว่างปัจจัยความต่อเนื่องของการขยายตัวของเศรษฐกิจกับปัจจัยด้านความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพระยะยาว... อ่านต่อ
13 สิงหาคม 2558
... อ่านต่อ
11 สิงหาคม 2558
12 พฤษภาคม 2558
27 มกราคม 2557
26 มกราคม 2555
19 ตุลาคม 2554
11 กุมภาพันธ์ 2554
18 สิงหาคม 2553
14 มิถุนายน 2553
12 เมษายน 2553
12 กุมภาพันธ์ 2553
26 พฤศจิกายน 2552